การพัฒนาความรู้ในการทำงานคือกระบวนการที่คุณใช้เพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพของข้อมูลและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานหรือสายงานของคุณ เพื่อที่จะเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต ดังนั้น การพัฒนาความรู้ในการทำงานมีความสำคัญอย่างมากและสามารถทำได้ผ่านหลายวิธี
ทำความเข้าใจทักษะของตนเอง
ขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นพัฒนาความรู้ของคุณคือการระบุสิ่งที่คุณขาด
- ลิสต์รายการความสามารถของคุณ: สิ่งแรกที่ต้องทำคือลองลิสต์รายการสิ่งที่คุณสามารถทำได้ ทักษะที่สำคัญต่าง ๆ รวมไปถึงความรู้ที่คุณมั่นใจว่าโดดเด่น จากนั้นนำไปเทียบกับความต้องการของตลาดหางานปัจจุบันว่าคุณกำลังขาดอะไร
- ใช้แพลตฟอร์มการประเมินทักษะ: เว็บไซต์หลายแห่งมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการประเมินทักษะ เช่น การประเมินทักษะของ LinkedIn หรือการทดสอบทักษะของ Indeed ให้การประเมินแบบกำหนดเป้าหมาย ทำให้คุณมองเห็นจุดยืนของตนเองชัดเจนยิ่งขึ้น และแนะนำเส้นทางการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับคุณ
- การวิเคราะห์ SWOT: หากสามารถทำได้ คุณอาจจะลองดำเนินการวิเคราะห์ SWOT ส่วนบุคคลเพื่อพิจารณาทักษะของตนเอง รวมถึงวิธีการ พัฒนาความรู้ ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางอาชีพของคุณ
ใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้ผ่านโลกออนไลน์
อินเทอร์เน็ตทำให้การเข้าถึงทรัพยากรด้านการศึกษาและการฝึกอบรมทั่วโลกนั้นอิสระอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้จึงช่วยให้การ พัฒนาความรู้ ของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- Coursera & Udemy: แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นขุมสมบัติแห่งความรู้ที่แท้จริง ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่การเขียนโปรแกรม Python ไปจนถึงเศรษฐศาสตร์การจัดการ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมเฉพาะทาง เช่น Nanodegree เพื่อการเรียนรู้เชิงลึกมากขึ้น
- LinkedIn Learning และ edX: แพลตฟอร์มเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาอาชีพ คอร์ส MicroMasters และใบรับรองวิชาชีพที่สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในสายงานต่าง ๆ ได้
- Khan Academy และ Codecademy: สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างความเข้าใจพื้นฐานที่แข็งแกร่งในวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ การเขียนโค้ด และวิทยาศาสตร์
หนังสือ = การพัฒนาความรู้ที่ดีที่สุด
คนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกมักจะเป็นนักอ่านที่อ่านแบบไม่รู้จบ ดังนั้นหนังสือจึงถือเป็นหนึ่งในการ พัฒนาความรู้ ที่ควรลองทำ
- หนังสือแนะนำ: หนังสืออย่าง “How to Win Friends and Influence People” โดย Dale Carnegie และ “The Lean Startup” โดย Eric Ries ได้รับการยกย่องในระดับสากลและเพราะสามารถมอบทักษะอันล้ำค่าที่สามารถนำไปใช้ได้ในทุกอาชีพ
- หนังสือเฉพาะทาง: แต่ละอุตสาหกรรมมีหนังสือที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น นักพัฒนาซอฟต์แวร์หลาย ๆ คนชื่นชมหนังสืออย่าง “Clean Code” โดย Robert C. Martin ในขณะที่ “The Principles of Corporate Finance” โดย Brealey, Myers และ Allen เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน
มองหาประสบการณ์ภาคปฏิบัติ
ทฤษฎีเป็นเพียงก้าวแรก การประยุกต์ใช้ความรู้ต่างหากที่เป็นเส้นทางสู่การ พัฒนาความรู้ อย่างแท้จริง
- การฝึกงาน: มองหาช่องทางหรือโอกาสที่คุณจะได้มีส่วนร่วมในการฝึกงานโดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาจบใหม่ หากคุณเป็นพนักงานอยู่แล้วอาจจะเสนอตัวทำงานในโปรเจคใหญ่แทนที่จะทำเฉพาะหน้าที่ของตน เพื่อให้การ พัฒนาความรู้ นั้นเป็นไปได้ดียิ่งขึ้น
- ลองรับงานเสริม : หากคุณมีเวลาว่าง การรับงานเสริมในฐานะฟรีแลนซ์ก็จะช่วย พัฒนาความรู้ ได้เป็นอย่างดี แต่ต้องเวลาว่างเท่านั้นและต้องมั่นใจว่างานเสริมนี้จะไม่กระทบต่องานหลัก
เรียนรู้จากเพื่อนร่วมอาชีพ
การเรียนรู้ไม่ใช่การเดินทางอันโดดเดี่ยว แต่หากสามารถมองหาเพื่อนร่วมทางระหว่างการ พัฒนาความรู้ จะทำให้คุณมั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
- แพลตฟอร์มเช่น MentorNet หรือ LinkedIn สามารถเชื่อมต่อคุณกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ซึ่งสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับงานของคุณได้
- สร้าง study group : การระดมความคิดร่วมกันมักจะนำไปสู่แนวทางการเรียนรู้แบบใหม่และความเข้าใจที่คุณอาจไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยตนเอง
อย่าหยุดอยากรู้อยากเห็น
การเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นมากในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน การ พัฒนาความรู้ จึงต้องมีการติดตามข่าวสารตลอดในทุก ๆ วัน
- จดหมายข่าวและวารสารอุตสาหกรรม: การ subscribe สื่อสิ่งพิมพ์ เช่น Harvard Business Review หรือ TechCrunch จะทำให้คุณไม่พลาดข่าวสารสำคัญในวงการอุตสาหกรรม
- ฟีเจอร์ RSS feed ของ Feedly: เครื่องมือนี้จะรวบรวมการ subscribe ทั้งหมดของคุณไว้ในฟีดเดียว ทำให้ง่ายต่อการติดตามข้อมูลหลายช่องทาง
Soft skill ก็ขาดไม่ได้
- Toastmasters: ได้รับการยอมรับทั่วโลกในด้านหลักสูตรการพูดในที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำของคุณ
- ชุมชนออนไลน์: แพลตฟอร์มเช่น Reddit และ Quora สามารถใช้ในการฝึกฝนทักษะการเข้าสังคม การพูดคุย และทำความเข้าใจผู้อื่น
วางแผนการเรียนรู้ของคุณ
การขาดการวางแผนสามารถขัดขวางความพยายามที่ขยันขันแข็งที่สุดได้ การ พัฒนาความรู้ นั้นจะเปรียบเสมือนการเดินทางอันยาวไกลที่ต้องมีแผนที่ชัดเจน
คุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์การจัดการโปรเจค เช่น Asana หรือ Jira สำหรับการวางแผนเหตุการณ์สำคัญ เครื่องมืออย่าง Trello และ Notion ยังมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อในการกำหนดเป้าหมายและทำ to do list อีกด้วย