การขับรถไม่ใช่แค่การเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B เท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญมาก ๆ ก็คือการขับรถอย่างมั่นใจว่ายานพาหนะของคุณจะปลอดภัยสำหรับทุกคน ทั้งผู้โดยสารและเพื่อนร่วมทาง ในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับแนวทางปฏิบัติในการขับขี่อย่างปลอดภัยทั้งหมด 10 ข้อที่ทุกคนควรรู้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าในการขับขี่ของคุณนั้นจะไปถึงจุดหมายได้อย่างสวัสดิภาพ
ตื่นตัวอยู่เสมอตลอดการขับขี่
การหลุดโฟกัสหรือการเสียสมาธิ ถือว่าเป็นศัตรูของการขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ เปิดมือถือ เปิดเพลง การดูแลเด็กๆ ที่เบาะหลัง การละสายตาจากถนนแม้แต่วินาทีเดียวก็สามารถส่งผลร้ายแรงได้ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรให้ความสำคัญกับการขับขี่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ โดยการทำตามนี้
- หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ แม้กระทั่งการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี เพราะอาจจะทำให้คุณเสียสมาธิได้
- ตั้งค่า GPS และตั้งค่าให้สามารถใช้งานได้ด้วยเสียงล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
- หยุดพักหากคุณรู้สึกเหนื่อยหรือง่วงนอน
ขับรถด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนด
การจำกัดความเร็วไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดเอง แต่ยังคำนวณจากการออกแบบถนน สภาพแวดล้อมโดยรอบ และสภาพการจราจรโดยทั่วไป การยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถตอบสนองได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น หากรถข้างหน้าเสียหลักมาใกล้ การขับรถด้วยความเร็วต่ำ จะทำให้คุณสามารถหักหลบได้อย่างทันท่วงทีมากกว่าการขับรถด้วยความเร็วสูง หรือแม้แต่ในช่วงที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ เช่น ฝนตก การขับรถด้วยความเร็วที่กำหนดก็จะทำให้คุณปลอดภัยมากขึ้นหลายเท่า
ใช้ไฟเลี้ยวให้เป็นประโยชน์
ไฟเลี้ยวจะสื่อสารเจตนาในการขับรถของคุณไปยังผู้ใช้ถนนรายอื่น เพื่อให้เพื่อนร่วมทางเข้าใจว่าคุณกำลังจะเลี้ยว การใช้สิ่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่องทำให้แน่ใจได้ว่า:
- ผู้ขับขี่คนอื่นๆ สามารถคาดเดาการเลี้ยวของคุณและสามารถวางแผนการขับขี่ของตัวเองได้
- คนเดินเท้าจะได้รู้ว่าคุณกำลังจะเลี้ยว และจะได้เดินเท้าอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
รักษาระยะห่างกับยานพาหนะคันอื่น ๆ
การไล่ตามหรือขับรถเข้าใกล้รถคันอื่นอย่างใกล้ชิดเกินไปจะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย และคุณอาจจะตอบสนองได้ไม่ทันหากเกินเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่รถคันหน้าจะเบรกกะทันหันแล้วทำให้เกิดการชนได้ ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คุณควรทำ
- รักษาระยะห่างอย่างน้อย 3 วินาที
- เพิ่มระยะห่างมากยิ่งขึ้นไปอีกในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยหรือเมื่อขับขี่ยานพาหนะขนาดใหญ่
ตรวจสภาพรถเป็นประจำ
ยานพาหนะที่ได้รับการดูแลอย่างดีมีโอกาสทำงานผิดพลาดน้อยลง รับประกันความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น หลัก ๆ แล้วการตรวจสอบรถของคุณควรทำดังนี้
- แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุด ลดความเสี่ยงของการระเบิด
- การทำงานของระบบเบรก ไฟ และส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ
รัดเข็มขัดนิรภัย
เข็มขัดนิรภัยช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิตระหว่างเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก แม้ว่าการรณรงค์เกี่ยวกับเข็มขัดนิรภัยอาจจะดูน่าเบื่อ แต่เชื่อเถอะว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
- คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดไว้แล้วก่อนที่จะเริ่มออกเดินทาง
ทักษะการขับรถในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
สภาพอากาศที่แตกต่างกันต้องใช้เทคนิคการขับขี่ที่ไม่เหมือนกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ดังนี้
- ชะลอความเร็วและเพิ่มระยะห่างจากรถคันข้างหน้าเมื่อฝนตก
- การใช้ไฟตัดหมอกและการขับขี่ด้วยความเร็วที่ช้าลงในสภาพที่มีหมอกหนา
เทคนิคการขับรถเหล่านี้แม้ว่าจะเป็นพื้นฐาน และอาจจะทำให้การขับขี่รถยนต์ของคุณนั้นสนุกน้อยลง แต่มันจะทำให้คุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และเดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
หากพบเจออุบัติเหตุบนท้องถนนควรทำอย่างไรบ้าง
หากคุณพบเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนน คุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
1. รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น:
- หยุดรถให้มีความปลอดภัย โดยการหยุดรถที่ไม่บังคับให้ผ่านหรือหยุดไว้ในที่ปลอดภัย และเปิดไฟสัญญาณเตือนภัย (หลอดไฟสีเหลือง) เพื่อเตือนผู้คนในบริเวณใกล้เคียง.
- ตรวจสอบสภาพรถและผู้บาดเจ็บ อยู่ในระยะที่ปลอดภัย หากไม่ปลอดภัย ควรห่างออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม
2. แจ้งเหตุให้กับหน่วยงานหรือสายด่วน:
- โทรหาเบอร์ฉุกเฉิน (1669) เพื่อแจ้งเหตุและข้อมูลเพิ่มเติม และระบุสถานที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน เช่น ชื่อถนน และสถานที่ตั้ง โดยประสานงานกับหน่วยงานการช่วยเหลือเมื่อทำการโทร
3. ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บ:
- ให้การปฐมพยาบาลอย่างเร็วที่สุด หากเป็นไปได้ รับมือกับบาดเจ็บอย่างเหมาะสม เช่น หยุดการเลือด ให้การช่วยเหลือทางการแพทย์ และส่งต่อผู้บาดเจ็บให้พบแพทย์ที่รพ. โดยเร็วที่สุด คุณสามารถฝึกปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน เอาไว้เพื่อเป็นความรู้เมื่อเจออุบัติเหตุ
4. รอการช่วยเหลือมาถึง:
- รอให้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินมาให้การช่วยเหลือ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ สภาพที่เกิดเหตุ สภาพผู้ป่วยที่พบเจอในตอนแรก
การปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวจะช่วยให้การจัดการเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง