Home » แนวทางปฏิบัติในการขับขี่อย่างปลอดภัย 10 ข้อที่ทุกคนควรรู้

แนวทางปฏิบัติในการขับขี่อย่างปลอดภัย 10 ข้อที่ทุกคนควรรู้

by Andrew Day
54 views

การขับรถไม่ใช่แค่การเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B เท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ การขับรถอย่างมั่นใจว่ายานพาหนะของคุณจะปลอดภัยสำหรับทุกคน ทั้งผู้โดยสารและเพื่อนร่วมทาง ในวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับแนวทางปฏิบัติในการขับขี่อย่างปลอดภัยทั้งหมด 10 ข้อที่ทุกคนควรรู้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าในการขับขี่ของคุณนั้นจะไปถึงจุดหมายได้อย่างสวัสดิภาพ

ตื่นตัวอยู่เสมอตลอดการขับขี่

การหลุดโฟกัสหรือการเสียสมาธิ ถือว่าเป็นศัตรูของการขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ เปิดมือถือ เปิดเพลง การดูแลเด็กๆ ที่เบาะหลัง การละสายตาจากถนนแม้แต่วินาทีเดียวก็สามารถส่งผลร้ายแรงได้ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรให้ความสำคัญกับการขับขี่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ โดยการทำตามนี้

  • หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือ แม้กระทั่งการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี เพราะอาจจะทำให้คุณเสียสมาธิได้
  • ตั้งค่า GPS และตั้งค่าให้สามารถใช้งานได้ด้วยเสียงล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง
  • หยุดพักหากคุณรู้สึกเหนื่อยหรือง่วงนอน

2.ขับรถด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนด copy

ขับรถด้วยความเร็วที่กฎหมายกำหนด

การจำกัดความเร็วไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่กำหนดเอง แต่ยังคำนวณจากการออกแบบถนน สภาพแวดล้อมโดยรอบ และสภาพการจราจรโดยทั่วไป การยึดมั่นในสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถตอบสนองได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น หากรถข้างหน้าเสียหลักมาใกล้ การขับรถด้วยความเร็วต่ำ จะทำให้คุณสามารถหักหลบได้อย่างทันท่วงทีมากกว่าการขับรถด้วยความเร็วสูง หรือแม้แต่ในช่วงที่สภาพอากาศไม่เป็นใจ เช่น ฝนตก การขับรถด้วยความเร็วที่กำหนดก็จะทำให้คุณปลอดภัยมากขึ้นหลายเท่า

ใช้ไฟเลี้ยวให้เป็นประโยชน์

ไฟเลี้ยวจะสื่อสารเจตนาในการขับรถของคุณไปยังผู้ใช้ถนนรายอื่น เพื่อให้เพื่อนร่วมทางเข้าใจว่าคุณกำลังจะเลี้ยว การใช้สิ่งเหล่านี้อย่างต่อเนื่องทำให้แน่ใจได้ว่า

  • ผู้ขับขี่คนอื่นๆ สามารถคาดเดาการเลี้ยวของคุณและสามารถวางแผนการขับขี่ของตัวเองได้
  • คนเดินเท้าจะได้รู้ว่าคุณกำลังจะเลี้ยว และจะได้เดินเท้าอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

3.รักษาระยะห่างกับยานพาหนะคันอื่นๆ copy

รักษาระยะห่างกับยานพาหนะคันอื่นๆ

การไล่ตามหรือขับรถเข้าใกล้รถคันอื่นอย่างใกล้ชิดเกินไปจะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย และคุณอาจจะตอบสนองได้ไม่ทันหากเกินเหตุฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่รถคันหน้าจะเบรกกะทันหันแล้วทำให้เกิดการชนได้ ดังนั้นนี่คือสิ่งที่คุณควรทำ

  • รักษาระยะห่างอย่างน้อย 3 วินาที
  • เพิ่มระยะห่างมากยิ่งขึ้นไปอีกในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยหรือเมื่อขับขี่ยานพาหนะขนาดใหญ่

ตรวจสภาพรถเป็นประจำ

ยานพาหนะที่ได้รับการดูแลอย่างดีมีโอกาสทำงานผิดพลาดน้อยลง รับประกันความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น หลัก ๆ แล้วการตรวจสอบรถของคุณควรทำดังนี้

  • แรงดันลมยางที่เหมาะสมที่สุด ลดความเสี่ยงของการระเบิด
  • การทำงานของระบบเบรก ไฟ และส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ

รัดเข็มขัดนิรภัย

เข็มขัดนิรภัยช่วยลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิตระหว่างเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมาก แม้ว่าการรณรงค์เกี่ยวกับเข็มขัดนิรภัยอาจจะดูน่าเบื่อ แต่เชื่อเถอะว่ามันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

  • คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดไว้แล้วก่อนที่จะเริ่มออกเดินทาง

ทักษะการขับรถในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน

สภาพอากาศที่แตกต่างกันต้องใช้เทคนิคการขับขี่ที่ไม่เหมือนกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ดังนี้

  • ชะลอความเร็วและเพิ่มระยะห่างจากรถคันข้างหน้าเมื่อฝนตก
  • การใช้ไฟตัดหมอกและการขับขี่ด้วยความเร็วที่ช้าลงในสภาพที่มีหมอกหนา

เทคนิคการขับรถเหล่านี้แม้ว่าจะเป็นพื้นฐาน และอาจจะทำให้การขับขี่รถยนต์ของคุณนั้นสนุกน้อยลง แต่มันจะทำให้คุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และเดินทางถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

หากพบเจออุบัติเหตุบนท้องถนนควรทำอย่างไรบ้าง

หากคุณพบเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนน คุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น

  • หยุดรถให้มีความปลอดภัย โดยการหยุดรถที่ไม่บังคับให้ผ่านหรือหยุดไว้ในที่ปลอดภัย และเปิดไฟสัญญาณเตือนภัย (หลอดไฟสีเหลือง) เพื่อเตือนผู้คนในบริเวณใกล้เคียง
  • ตรวจสอบสภาพรถและผู้บาดเจ็บ อยู่ในระยะที่ปลอดภัย หากไม่ปลอดภัย ควรห่างออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

2. แจ้งเหตุให้กับหน่วยงานหรือสายด่วน

โทรหาเบอร์ฉุกเฉิน (1669) เพื่อแจ้งเหตุและข้อมูลเพิ่มเติม และระบุสถานที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน เช่น ชื่อถนน และสถานที่ตั้ง โดยประสานงานกับหน่วยงานการช่วยเหลือเมื่อทำการโทร

3. ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บาดเจ็บ

ให้การปฐมพยาบาลอย่างเร็วที่สุด หากเป็นไปได้ รับมือกับบาดเจ็บอย่างเหมาะสม เช่น หยุดการเลือด ให้การช่วยเหลือทางการแพทย์ และส่งต่อผู้บาดเจ็บให้พบแพทย์ที่ รพ. โดยเร็วที่สุด คุณสามารถฝึกปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐาน เอาไว้เพื่อเป็นความรู้เมื่อเจออุบัติเหตุ

4. รอการช่วยเหลือมาถึง

รอให้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินมาให้การช่วยเหลือ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ สภาพที่เกิดเหตุ สภาพผู้ป่วยที่พบเจอในตอนแรก

การปฏิบัติตามขั้นตอนดังกล่าวจะช่วยให้การจัดการเหตุการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกคนที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับเรา

logo Orderbride

Orderbride เป็นเว็บไซต์บทความความปลอดภัยในการทำงาน ที่ช่วยเติมเต็มความรู้ด้านความปลอดภัยของคุณในทุกวัน

เรื่องน่าสนใจ

@2024 – All Right Reserved. Designed and Developed by Orderbride